แพทย์หญิงนิภา อดีต
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์
เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2541 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จมาตรวจเยี่ยม
พร้อมติดตามผลงานโครงการขุดลอกคลองหัววัง-พนังตัก
เนื่องจากจังหวัดชุมพรเกิดน้ำท่วมบ่อย
และเสด็จผ่านตามสถานที่ต่างๆจนมาถึงโรงพยาบาลชุมพรฯเมื่อเวลา 19.00 น. ซึ่งก่อนหน้านั้นผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ส่วนหน้า
ที่จะมาตรวจเยี่ยมจังหวัดชุมพรไม่ยืนยันว่าพระองค์ท่านจะแวะโรงพยาบาลชุมพร แต่ก็ได้ทราบข่าวเรื่องพระองค์ท่านจะเสด็จมาชุมพรตั้งแต่
วันที่ 10 มิถุนายนแล้ว
แต่ก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเตรียมความพร้อม
ทำระดับน้ำและภาพถ่ายต่างๆเพื่อจัดเป็นนิทรรศการให้พระองค์ท่านเข้าชม ถึงแม้ไม่แน่ใจว่าพระองค์ท่านจะเสด็จแวะโรงพยาบาลหรือไม่ ตั้งแต่เวลาประมาณ 12.00 น.มีประชาชนรอรับเสด็จเต็มไปหมด ต่อมาเมื่อเวลา 19.00
น.มีรถนำขบวนวิ่งเล่นไปหน้า รู้สึกใจหายเพราะคิดว่าพระองค์ท่านคงจะไม่แวะแล้ว
แต่อีกสักพักหนึ่งมีรถนำวิ่งเล่นเข้ามาซึ่งได้สร้างความปลาบปลื้ม
และปิติยินดี แก่พวกเราชาวโรงพยาบาลชุมพรเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในขณะนั้นอีก 3 เดือนก็จะเกษียณราชการแล้ว โรงพยาบาล หลังจากนั้นพระองค์ท่านก็ลงจากรถพร้อมกับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
จึงได้เข้าไปรับเสด็จ พ.ญ.นิภา อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมพรฯ ยังเล่าอีกว่า
ขณะกำลังรายงานตัว เสียงก็สั่น
พระองค์ท่านเกิดความสงสารจึงบอกว่าไปดูระดับน้ำกัน ก็เลยนำเสด็จไปดูถึงความเสียหายต่างๆ
โดยเฉพาะเครื่องเอกซเรย์ที่เกิดความเสียหายมาก
พระองค์ท่านจึงตรัสมาว่า ภายในเครื่องคงจะเป็นสนิมหมดแล้ว แทบไม่น่าเชื่อว่าพายุซีต้า
น้ำจะท่วมมากกว่าพายุเกย์
พระองค์บอกว่าที่มานี้เพราะว่าสงสารจะมาแก้ไม่ให้น้ำท่วมอีกแล้ว
พระองค์ท่านยังหันไปพระปรารภถึงหมอเอกซเรย์ว่า หมอตัวสูงน้ำถึงไม่ท่วม สักครู่พระองค์ท่านถ่ายภาพระดับน้ำที่ท่วม
จึงเสด็จลงมาโดยที่มีประชาชนยังอยู่รับเสด็จเต็มไปหมด เมื่อตอนท่านจะเสด็จกลับ
รู้สึกมีความปลื้มปิติที่มาเยี่ยมโรงพยาบาลชุมพร
ได้มีความเมตตาเยี่ยมทุกข์สุขของประชาชน พระองค์ท่านคงจะติดตามข่าวสารทางสื่อตลอดเวลา เมื่อครั้งที่น้ำท่วมจากพายุซีต้าใหม่ๆได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า
เครื่องมือหนักอย่างเช่น
เครื่องเอกซเรย์
เครื่องซักผ้า
เพราะมันหนักไม่สามารถจะยกขึ้นที่สูงได้ทัน จึงเกิดความเสียหาย พระองค์ท่านทรงทราบดี
เพราะฉะนั้นการเสด็จเยือนโรงพยาบาลชุมพรฯครั้งนั้นพระองค์ท่านสอบถามเรื่องเครื่องเอกซเรย์ก่อนเลย
ภายหลังจากที่ท่านเสด็จกลับ อีกประมาณ 6 เดือน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
ทรงพระราชทานเครื่องเอกซเรย์ มาให้โรงพยาบาลชุมพรฯจำนวน 1 เครื่อง ราคา 4 ล้านบาท
ซึ่งปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดี
ปัจจุบัน พ.ญ.นิภา ธนภัทร อายุ 79 ปี ถึงจะเกษียณอายุราชการมา 19
ปีแล้วและเปิดคลินิกรักษาผู้ป่วยทั่วไปตั้งอยู่ข้างสำนักงานเทศบาลเมืองชุมพร
แต่ก็ยังเอาเวลาส่วนใหญ่เดินทางไปรักษาผู้ป่วยที่โรงพยาบาลชุมพร สัปดาห์ละ 4 วัน ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. และยังมีอดีตหัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ในช่วงนั้นคือนางจีรภา ปัตเมฆ ได้เข้าเฝ้าอย่างไกล้ชิดร่วมกับพ.ญ.นิภาซึ่งปจุบันได้เป็นอาจารย์สอนนักศึกษาอยุ่ทีมหาลัยชีวิตอยู่ทีศรช.เมืองชุมพรชึ้งแนวการสอนของมหาลัยชีวิตได้น้อมนำตามแนวพระราชดำริของในหลวงเพื่อให้นักศึกษาได้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น