วันนี้ 9 พฤศจิกายน 2559 เวลา 13.00 น. ตัวแทนกลุ่มรักษ์อ่าวทุ่งมหา
ซึ่งอยู่ที่ชุมชนบ้านทุ่งมหา ต. ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้ร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวพร้อมกับพาไปดูนากุ้งของนายทุนใหญ่ในพื้นที่ตำบลปากคลอง
ลักลอบปล่อยน้ำเสียออกสู่ทะเลโดยไม่มีการบำบัด โดยทำการวางท่อน้ำเสียให้ไหลลงทะเลอย่างเห็นชัดเจนโดยไม่มีการบำบัด
จนทำให้น้ำบริเวณชายหาดอ่าวทุ่งมหาเน่าเหม็น ก่อนหน้านี้ มีชาวประมงบางคนทนไม่ไหวจนต้องเลิกอาชีพประมงชายฝั่งไปเลยก็มี
ตัวแทนกลุ่มได้แจ้งว่า ทำมานานนับสิบปี
ร้องเรียนไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีใครสนใจแก้ปัญหาอย่างจริงจัง และวันนี้
วันที่ 9 พ.ย 59 ชาวบ้าน ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร
ร้องเรียนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีบ่อเลี้ยงกุ้งของนายทุนใหญ่ปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเลจนน้ำเน่าเสีย
ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลนซึ่งเป็นห่วงโซ่อาหาร
ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำและเป็นที่อนุบาลสัตว์เล็กชายฝั่ง
จากการไปตรวจสอบในพื้นที่ พบมีบ่อเลี้ยงกุ้ง
1 บ่อ เป็นบ่อขนาดใหญ่อยู่บนเนื้อที่ราว 2 ไร่ตัวแทนกลุ่มรักษ์อ่าวทุ่งมหา
ได้กล่าวว่า ในช่วงเช้านายทุนเข้ามาจับกุ้งและทำการสูบน้ำจากทะเลอีกด้านหนึ่งและปล่อยน้ำเสียเวลาจับกุ้งไปยังทะเลอีกด้านหนึ่งในรอบหนึ่งปีจะมีการเลี้ยงกุ้ง
3 รอบ เมื่อจับกุ้งทุกครั้งก็จะปล่อยน้ำเสียลงทะเลแบบนี้ทุกครั้ง ซึ่งนากุ้งแห่งนี้ได้ทำมานานนับสิบปีแล้ว
ชาวบ้านเคยร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่หลายครั้ง แต่ไม่ได้รับความสนใจ
นากุ้งขนาดใหญ่แห่งนี้ได้ปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเลมานานแล้ว ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำชายฝั่งอย่างมาก
ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำประมงพื้นบ้าน ออกจับปลาตามชายฝั่ง
ปัจจุบันนี้ไม่มีสัตว์น้ำให้จับอีกแล้ว เพราะผลกระทบจากการปล่อยน้ำเสียของนากุ้ง
หลายคนชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำประมงพื้นบ้าน ออกจับปลาตามชายฝั่ง ปัจจุบันนี้พบว่าสัตว์น้ำลดจำนวนลง
ทั้งที่ชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์ป่าชายเลนแปลงใหญ่ที่มีอยู่ในพื้นที่อ่าวทุ่งมหา
แต่พอเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ชาวบ้านรู้สึกเสียใจ เพราะจะส่งผลกระทบจากการปล่อยน้ำเสียของนากุ้งต่อระบบนิเวศทางทะเลทุก
ๆ ด้าน
การปล่อยน้ำเสียในครั้งนี้ นางสาวชิดสุภางค์ ชำนาญ เลขาธิการสมาคมเพื่อนสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร กล่าวว่า พื้นที่อ่าวทุ่งมหา ต.ปากคลอง นี้ เป็นพื้นที่ที่มีป่าชายเลนแปลงใหญ่สุดของอำเภอปะทิว มีมากถึง 6 พันกว่าไร่ และตั้งแต่ปี 44 เป็นต้นมา มีกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนอ่าวทุ่งมหาได้ทำการฟื้นฟูป่าชายเลนให้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของคนทั้งอำเภอปะทิว เนื่องจากเป็นแหล่งขยายพันธุ์สัตว์น้ำ แหล่งธนาคารปู จึงขอฝากไปถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องลงมาจัดการด้วย
เพราะได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง และถ้าปล่อยไว้เช่นนี้
ยังไม่มีหน่วยงานเกี่ยวข้องลงมาดูแล ชาวบ้านอาจจะต้องใช้มาตรการกดดันที่รุนแรงมากขึ้นต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น