วันที่
15 พฤศจิกายน 2559 เครือข่ายภาคประชาสังคมชุมพร
โดยนายสิทธิโชค เล็งไพบูลย์ ได้นัดรวมตัวเครือข่ายจำนวน 18
เครือข่าย อาทิ สมัชชาจังหวัดชุมพร สมาคมประชาสังคมจังหวัดชุมพร
เครือข่ายสิทธิชุมชนสลุย-หงษเจริญ เครือข่ายงดเหล้าชุมพร
เครือข่ายรักษ์ชุมพร กลุ่มชุมพรฟอรั่ม เครือข่าย ม.ชีวิตศูนย์ชุมพร - หลังสวน กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะ
เครือข่ายรักษ์ขุนกระทิง เครือข่ายธนาคารต้นไม้ สมาคมเพื่อนสิงแวดล้อมชุมพร สมาคมชาวสวนยางภาคใต้ สมาคมสื่อภูมิภาคชุมพร เครือข่ายแปรรูปกาแฟสหกรณ์เกษตรบ้านพันวาล
สมาคมท่องเที่ยวโดยชุมชน เครือข่ายจัดการภัยพิบัติโดยชุมชนลุ่มน้ำหลังสวน กลุ่มอนุรักษ์เขาตาพรหม และเครือข่ายกองทุนหลักประกันสุขภาพ ได้เข้าพบนายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
โดยในการเข้าพบครั้งนี้ตัวแทนกลุ่มได้นำผลิตภัณฑ์จากชุมชนและของกลุ่มมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร
ซึ่งเจตนารมณ์ของการเข้าพบในครั้งเพื่อแสดงชี้แจงการขับเคลื่อนงานชุมชนตามกลไกของภาคประชาสังคม
ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มภาคประชาสังคม คือ นายทวีวัตร
เครือสาย ได้เสนอแนวทางการขับเคลื่อนเรื่องสุขภาวะจังหวัดชุมพร
โดยใช้เครื่องมือสมัชชาสุขภาพจังหวัดชุมพร เป็นตัวขับเคลื่อน และเชื่อมโยงกับเครือข่ายต่าง
ๆ ที่มาในวันนี้ ร่วมขับเคลื่อนงานสมัชชาสุขภาพจังหวัดชุมพร
โดยมุ่งให้ชุมชนมีสุขภาวะที่ดีคลอบคลุมทั้งจังหวัด และยังมีเรื่องของงานข้อมูลเชิงวิชาการซึ่งมีเครือข่ายมหาวิทยาลัยชีวิต
ศูนย์เมืองชุมพร และเมืองหลังสวน ซึ่งมีตัวแทนเข้าร่วมคือ นายไอศูรย์ ภาษยะวรรณ์
ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานด้านข้อมูล
และทางกลุ่มอนุรักษ์เขาตาพรหมได้ทำหนังสือเข้ายื่นต่อผู้ว่าเรื่องการสัมปทานการทำเหมืองหินพื้นที่เขาตาพรหมที่มีการระเบิดหินแต่ละครั้งจะมีเศษหินกระจายไปทั่วบริเวณทำให้พืชผลทางการเกษตรตลอดจนบ้านเรือนเกิดผลกระทบโดยทำให้โครงสร้างผนังแตกร้าวบ้างในบางหลังและทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมในชุมชน
เช่น ป่าไม้ และสัตว์ป่าคุ้มครองที่อาศัยเช่น เลียงผา สัตว์อื่น ๆ
ที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาตาพรหม ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ถ้าหากมีการสัมปทานต่อ
จะทำให้ทรัพยากรดังกล่าวถูกทำลายลงไปอีกเป็นอย่างมาก
ผู้ว่าราชการจังหวัดยังได้กล่าวต่อว่าเรื่องการเกษตรถือเป็นเรื่องใหญ่ของจังหวัดชุมพร พวกเรา (หมายถึงเครือข่ายที่มาในวันนี้) เป็นผู้นำตามธรรมชาติ
ในชุมชน และเห็นว่าพื้นที่จังหวัดชุมพรยังเป็นพื้นที่ที่มีคุณค่าแก่การอนุรักษ์เช่น
ป่าชายเลนที่มีการบุกรุก เรื่องการถือครองเอกสารสิทธ์ เรื่องป่าไม้ในเขตอุทยาน ซึ่งทุกอย่างมีข้อจำกัดอยู่ในกฏหมายอยู่แล้วทางราชการยินดีรับในประเด็นปัญหาต่าง
ๆ และผู้ว่าฯ ยังได้พูดถึงสินค้าโอท็อปของจังหวัดชุมพรว่าจะทำอย่างไรให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างมาก
การเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรในครั้งนี้
เจตนารมณ์ของเครือข่ายคือ อยากให้สังคมคนชุมพรมีสุขภาวะที่ดี ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง
นอกจากนี้ทางกลุ่มได้เสนอว่า จะนำผลการดำเนินงานของเครือข่ายนำเสนอต่อผู้ว่าฯ ๒
เดือนต่อครั้ง เพื่อให้ทางจังหวัดได้รับทราบความเคลื่อนไหวของภาคประชาสังคมชุมพร






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น