จุดเกิดเหตุดังกล่าวพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง มีรอยสักตามลำตัว และสักภาษาเมียนร์ม่า อยู่บริเวณแขนขวา อายุประมาณ 30-35 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าไม่สวมใส่เสื้อผ้า นุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียว โดยมีกางเกงลายขาสั้นและรองเท้าแตะสีฟ้าวางอยู่ข้างลำตัว เมื่อหน่วยกู้ภัยพลิกศพให้หงายขึ้นพบว่าผู้เสียชีวิตนอนทับเส้นลวดไว้ จากการชันสูตรพบว่ามีบาดแผลถูกกระแสไฟฟ้าช็อตเป็นรอยไหม้บริเวณหน้าแข้งซ้ายและขวาเป็นทางยาวข้างละประมาณ 3-5 ซม. เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชม.
จากการสอบสวนทราบว่าจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่ในสวนมะพร้าวของ นายนิกร พลโกจาร อายุ 52 ปี โดยพักอาศัยอยู่กับภรรยาชื่อ นางยุภา พลโกจาร อายุ 47 ปี ในบ้านไม่มีเลขที่ห่างจากศพผู้เสียชีวิต ประมาณ 50 เมตร แต่ระหว่างเกิดเหตุพบศพได้เป็นลมล้มพับเพราะช๊อกตกใจนอนซมอยู่ภายในบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว
โดยนายนิกร เล่าว่า เมื่อ 2-3 สัปดาห์ ที่ผ่านมาวัวสายพันธุ์โรมันทั้งเพศผู้และเพศเมียจำนวน 3 ตัวที่เลี้ยงเอาไว้บริเวณภายในสวนบริเวณบ้านพอตกดึกสุนัขมักจะเห่าทุกคืน และบางคืนเชือกที่ล่ามเอาไว้ก็จะหลุดโดยหาสาเหตุไม่ได้ ต้องคอยระวังอยู่ตลอดทั้งคืนไม่ได้หลับได้นอน แต่ยังไม่มีวัวของตนหาย เมื่อ 4-5 วันก่อนจึงไปซื้อเส้นลวดมาขึงรอบๆสวนและปล่อยกระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวล์ เพื่อกั้นไม่ให้วัวหลุดออกมาเดินเพ่นพ่านไปในเขตสวนเพื่อนบ้าน จนคืนเกิดเหตุขณะที่ตนและภรรยากำลังดูทีวีอยู่ภายในบ้านก็ได้ยินสุนัขเห่าอีกจึงชวนกันออกมาเดินสำรวจบริเวณวัวที่ผูกเอาไว้ แทบช๊อกเมื่อส่องไฟฉายไปเห็นคนนอนคว่ำหน้า ห่างจากคอกวัวเพียง 20 เมตร สภาพไม่สวมเสื้อผ้านุ่งเพียงกางเกงในตัวเดียว นางยุภา ภรรยาเห็นจึงช๊อกเป็นลมเข่าทรุดตนจึงพยุงเข้าไปในบ้านพร้อมกับตัดกระแสไฟฟ้าเพราะคาดว่าต้องถูกไฟช๊อตแน่นอน หลังจากนั้นจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน
ขณะเดียวกันมีชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ บอกว่าผู้สื่อข่าวว่า “ก่อนหน้านี้มีข่าวลือกันว่าดึกๆละแวกใกล้ๆกันจะมีชายโรคจิตชอบแอบมีเพศสัมพันธ์กับวัวเพศเมียอยู่บ่อยๆทางผู้ใหญ่บ้านจึงจัดชุด ชรบ.เพื่อออกตรวจตราตามหมู่บ้าน บางคืนเจอชายแปลกหน้าเดินดุ่มๆยามค่ำคืนแต่เมื่อขอตรวจค้นกลับวิ่งหนีไปได้ สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ อาจจะเป็นรายเดียวกันหรือเปล่า”
ด้าน ร.ต.อ.อิทธิพัทธ์ เปิดเผยว่า สำหรับผู้เสียชิวิตรายนี้ สันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นแรงงานชาวเมียร์ม่า เพราะมีรอยสักเป็นภาษาเมียร์ม่า สอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงไม่มีใครรู้จักมาก่อน และในตัวก็ไม่พบมีเอกสารใดๆ ส่วนพฤติกรรมเป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมไม่สวมเสื้อผ้าและยังแอบย่องเข้าไปหาวัวเพศเมียของชาวบ้านยามค่ำคืน แต่ในส่วนของคดีดังกล่าวขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆกับนายนิกร
จากการสอบสวนทราบว่าจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่ในสวนมะพร้าวของ นายนิกร พลโกจาร อายุ 52 ปี โดยพักอาศัยอยู่กับภรรยาชื่อ นางยุภา พลโกจาร อายุ 47 ปี ในบ้านไม่มีเลขที่ห่างจากศพผู้เสียชีวิต ประมาณ 50 เมตร แต่ระหว่างเกิดเหตุพบศพได้เป็นลมล้มพับเพราะช๊อกตกใจนอนซมอยู่ภายในบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว
โดยนายนิกร เล่าว่า เมื่อ 2-3 สัปดาห์ ที่ผ่านมาวัวสายพันธุ์โรมันทั้งเพศผู้และเพศเมียจำนวน 3 ตัวที่เลี้ยงเอาไว้บริเวณภายในสวนบริเวณบ้านพอตกดึกสุนัขมักจะเห่าทุกคืน และบางคืนเชือกที่ล่ามเอาไว้ก็จะหลุดโดยหาสาเหตุไม่ได้ ต้องคอยระวังอยู่ตลอดทั้งคืนไม่ได้หลับได้นอน แต่ยังไม่มีวัวของตนหาย เมื่อ 4-5 วันก่อนจึงไปซื้อเส้นลวดมาขึงรอบๆสวนและปล่อยกระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวล์ เพื่อกั้นไม่ให้วัวหลุดออกมาเดินเพ่นพ่านไปในเขตสวนเพื่อนบ้าน จนคืนเกิดเหตุขณะที่ตนและภรรยากำลังดูทีวีอยู่ภายในบ้านก็ได้ยินสุนัขเห่าอีกจึงชวนกันออกมาเดินสำรวจบริเวณวัวที่ผูกเอาไว้ แทบช๊อกเมื่อส่องไฟฉายไปเห็นคนนอนคว่ำหน้า ห่างจากคอกวัวเพียง 20 เมตร สภาพไม่สวมเสื้อผ้านุ่งเพียงกางเกงในตัวเดียว นางยุภา ภรรยาเห็นจึงช๊อกเป็นลมเข่าทรุดตนจึงพยุงเข้าไปในบ้านพร้อมกับตัดกระแสไฟฟ้าเพราะคาดว่าต้องถูกไฟช๊อตแน่นอน หลังจากนั้นจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน
ขณะเดียวกันมีชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ บอกว่าผู้สื่อข่าวว่า “ก่อนหน้านี้มีข่าวลือกันว่าดึกๆละแวกใกล้ๆกันจะมีชายโรคจิตชอบแอบมีเพศสัมพันธ์กับวัวเพศเมียอยู่บ่อยๆทางผู้ใหญ่บ้านจึงจัดชุด ชรบ.เพื่อออกตรวจตราตามหมู่บ้าน บางคืนเจอชายแปลกหน้าเดินดุ่มๆยามค่ำคืนแต่เมื่อขอตรวจค้นกลับวิ่งหนีไปได้ สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ อาจจะเป็นรายเดียวกันหรือเปล่า”
ด้าน ร.ต.อ.อิทธิพัทธ์ เปิดเผยว่า สำหรับผู้เสียชิวิตรายนี้ สันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นแรงงานชาวเมียร์ม่า เพราะมีรอยสักเป็นภาษาเมียร์ม่า สอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงไม่มีใครรู้จักมาก่อน และในตัวก็ไม่พบมีเอกสารใดๆ ส่วนพฤติกรรมเป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมไม่สวมเสื้อผ้าและยังแอบย่องเข้าไปหาวัวเพศเมียของชาวบ้านยามค่ำคืน แต่ในส่วนของคดีดังกล่าวขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆกับนายนิกร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น