สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ของวันที่ 12 พ.ย.2559 มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายเกรียงไกร(ดำ)อินทนาคม อายุ 59 ปี กับนางสุทัศน์(หม่ำ)อินทนาคม อายุ 52 ปี ถึงแก่ความตายทั้ง 2 ราย เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 192 หมู่ 9 ชุมชนวัดสุบรรณฯ ม.9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร ต่อมาจนท.ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองชุมพร ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.ชุมพร ได้สืบสวนหาข่าว พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชุมพร และต่อมาสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณชุมชนที่ผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่ เบื้องต้นให้การรับสารภาพ สาเหตุจากความโกรธแค้นที่สะสมมาหลายๆครั้งที่ผู้ตายกระทำต่อผู้โดยเฉพาะปัญหาเรื่องสุนัข
สำหรับบรรยากาศการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว “นายเบียร์” ผู้ต้องหาลงจากรถ ได้เข้าไปพบนางชั่ง อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 ซึ่งเป็นมารดาของนายเบียร์ โดยได้เข้าไปโผกอดและกราบเท้านางชั่ง ขณะเดียวกันมีบุตรสาวและบุตรชาวของของนายเบียร์ยืนอยู่ใกล้กันก่อนจะเข้าไปกอดผู้เป็นพ่อ ต่อมานายเบียร์พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดที่เก็บอาวุธปืนขนาด .38 ลูกโม่ บริเวณในตู้ ในครัวหลังบ้าน ก่อนจะนำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวเดินไปบ้านของผู้ตายซึ้งอยู่เยื้องกับบ้านของนายเบียร์ผู้ต้องหาเพียง20 เมตรเท่านั้น โดยไปเคาะเรียกชื่อว่า “พี่ดำ พี่ดำ” เปิดประตูหน่อย(ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอนบนโซฟาจำลองเหตุการณ์อยู่ก่อน)พร้อมกับตนเปิดประตูเข้าไปเห็น นางสุทัศน์ หรือเจ๊หม่ำ ผู้ตายกำลังเล่นโทรศัพท์ จึงเล็งปืนยิงใส่เสียชีวิตทันที ขณะเดียวกัน นายเกรียงไกร หรือดำ ผงกหัวขึ้นมาคาดว่าก่อนหน้านั้นกำลังนอนหลับอยู่ จึงยิงไปที่นายเกรียงไกร อีก 1 นัด เข้าบริเวณเบ้าตาข้างซ้ายเสียชีวิตทันทีเช่นกัน ก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังควบคุมตัวผู้ต้องหาทำแผนอยู่นั้นได้มีญาติและเพื่อนบ้านของนายเบียร์ ผู้ต้องหาซี่งอยู่ชุมชนเดียวกันได้ตะโกนให้กำลังใจ แต่ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่ายังไงก็แล้วแต่ก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมายและจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
การทำแผนกระกอบรับคำสารภาพใช้เวลาเพียง 20 นาที ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นรถ นายเบียร์ขอกราบเท้านางชั่ง มารดา และขอโอบกอดบุตรชายและบุตรสาวทั้ง 3 คนก่อนถูกควบคุมตัวส่งดำเนินคดี
ด้านนางชั่ง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้มาก่อนเลยว่าลูกชายตนจะตกเป็นผู้ต้องหายิงคนตายเห็นเป็นคนเงียบๆตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่อย่างไรก็ตามในเมื่อกระทำความผิดไปแล้ว ก็ต้องก้มหน้ารับโทษไปตามกฎหมายบ้านเมือง ส่วนลูกๆทั้ง 3 คนจะฝากให้ญาติๆช่วยกันดูแลต่อไปเพราะตนเองอายุ 80 ปีแล้วจะคงรับภาระคนเดียวไม่ไหว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น