
1.ด้านระบบมลพิษทางอากาศ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี่แล้ว โดยได้สั่งซื้ออุปกรณ์ดักฝุ่นด้วยประจุไฟฟ้า ESP จากต่างประเทศ มูลค่าพร้อมติดตั้งกว่า 20 ล้านบาท อยู่ในขั้นตอนผลิตและประกอบ จะเริ่มนำเข้าถึงโรงงานเดือนตุลาคม 2559 นี้ และติดตั้งแล้วเสร็จเดือนเมษายน 2560
2.ปัญหาน้ำฝนสาดกองเชื้อเพลิง ทะลายปาล์ม และเศษไม้ ทำให้เปียกเป็นผลให้เกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์เกิดเขม่าได้ โดยให้บริษัททำผนังทึบ 3 ด้าน ซึ่งประเด็นนี้ทางบริษัทได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 ก่อนมีการปิดล้อมโรงงานและคณะทำงานมาเข้าตรวจสอบในวันที่ 10 สิงหาคม 2559 โดยก่อสร้างหลังคาคลุมวัตถุดิบ หลังคาคลุมและปิดกั้นผนังส่วนที่มีเครื่องจักรทำงานทั้งหมด ซึ่งในวันที่เข้าตรวจสอบ ได้แล้วเสร็จตามแผนแล้วร้อยละ 50 คงเหลือติดตั้งโครงหลังคา ติดตั้งแผ่นหลังคา และปิดกั้นผนังกันเสียงบริเวณเครื่องจักรก่อเสียงดังเกิน 80 เดซิเบล ซึ่งทางบริษัทได้แจ้งในที่ประชุมว่า น่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 30 วัน ในที่ประชุมได้จดบันทึกไว้และจะเข้ามาตรวจติดตามการก่อสร้างในวันที่ 18 กันยายน 2559
ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้แก้ไขแล้วเสร็จ เหลือเพียงการติดตั้งอุปกรณ์ดักฝุ่น ซึ่งต้องรอนำเข้าพร้อมติดตั้งคาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนเมษายน 2560
ขณะเดียวกันนายทวีป ยังเปิดเผยเอกสารการตรวจวัดระดับเสียงของบริษัท ทรัพย์อนันต์ไบโอแมส จำกัด โดย บริษัท พัฒนาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 34/304-5 หมู่ 5 ซ.วัดไผ่เขียว ถ.สรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ผลเวลาตรวจวัด 1.บริเวณภายในพื้นที่โรงงานวันที่ 28/09/59 เวลา 22.00-23.00 น.และเวลา 04.00-05.00 น. ค่าเฉลี่ยระดับเสียง 7.9 (DBA) 2.บริเวณบ้านร้องเรียน วันที่ 28/09/59 เวลา 22.00-23.00 น.และวันที่ 27/09/59 เวลา 07.00-08.00 น. ค่าเฉลี่ยระดับเสียง 0.1(DBA) ซึ่งค่ามาตรฐานไม่เกิน 10 (DBA)
จากกรณีดังกล่าวนายทวีป จึงร่อนหนังสื่อขอความเป็นธรรมเพื่อให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นไปอย่างยุติธรรม ยินดีปฏิบัติตามขั้นตอนที่คณะกรรมการของศูนย์ดำรงธรรมกำหนดทุกประการ และสอบสวนถึงมูลเหตุของความขัดแย้งกับชุมชน เพื่อให้ข้อพิพาทจบสิ้นลง
แต่อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯ ยังแก้ปัญหาเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านที่มาร้องเรียนเรื่องหมอกควัน เรื่องกลิ่น ไม่ได้ก็คงต้องเกิดข้อพิพาทกันต่อไประหว่างโรงงานไฟฟ้าของบริษัท ทรัพย์อนันต์ไบโอแมส จำกัด ที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านมากว่า 7 ปี จนทำให้เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความต่อกันทั้ง 2 ฝ่ายโดยอยู่ในกระบวนการไต่สวนเพื่อหาข้อยุติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น