นายประยูร ขาวศรี อายุ 61 ปี อดีตกำนัน ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 เปิดเผยว่า หากจังหวัดชุมพรไม่ได้โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ หรือ “แก้มลิงหนองใหญ่” ในพื้นที่ ต.บางลึก และโครงการขุดคลองระบายน้ำหัววัง-พนังตัก ในพื้นที่ ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร ซึ่งเป็นสองโครงการตามพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ จ.ชุมพร คิดว่าตั้งแต่ปี 2541 ถึงปัจจุบัน น้ำคงท่วมตัวเมืองชุมพรมานานกว่า 19 ปีอย่างแน่นอน
นายประยูร เล่าว่า เดิมพื้นที่หนองใหญ่เป็นพื้นที่สาธารณะประมาณ 600 กว่าไร่ที่ยังไม่ถูกชาวบ้านบุกรุก แต่เมื่อมีปัญหาน้ำท่วมตัวเมืองชุมพรทุกปีๆ ละ 2-3 ครั้งจึงมีข่าวว่าจะมีการทำหนองใหญ่ให้เป็นแก้มลิง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมตัวเมืองชุมพร ซึ่งตอนแรกชาวบ้านได้สมทบทุนกันก่อนในขุดคลอง ได้เงินประมาณ 40,000 บาท แต่ทำได้ระยะทางแค่ 1 กิโลเมตรเท่านั้นก็หมดเงิน เมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่ น้ำก็จะเอ่อเข้าไปในหนองใหญ่อีกแต่ไม่มีทางลงทะเล จึงวกกลับเข้ามาคลองท่าตะเภาก่อนเข้าท่วมตัวเมืองชุมพรในที่สุด เป็นอยู่แบบนี้ประมาณ 10 ปี จนเรื่องทราบถึงพระเนตรพระกรรณของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์จึงมีแนวพระราชดำริที่จะต้องขุดคลองให้ทะลุออกทะเลให้ได้ จังหวัดชุมพรจึงตั้งงบประมาณขุดคลอง แต่ก็ทำได้สักระยะก็หมดงบประมาณอีก
นายประยูร เล่าต่ออีกว่า ในเดือนสิงหาคม 2540 พายุโซนร้อนซีต้าทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ ตัวเมืองชุมพรได้รับความเสียหายหนัก เพราะมีน้ำไหลบ่าจาก อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ และจาก อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ลงมาในปริมาณมหาศาล และในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทราบว่า ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน จะมีพายุไต้ฝุ่นลินดาเข้า จ.ชุมพรอีก จึงทรงเรียกตัว นายดิสธร วัชโรทัย ผอ.กองงานส่วนพระองค์ในขณะเข้าไปพบเพื่อหารือว่าจะทำอย่างไรจึงจะขุดคลองให้ทะเลออกทะเลได้ จากนั้นนายดิสธรจึงลงมาปรึกษาผู้ว่าฯ ชุมพรคือ ดร.สุรพล กาญจนะจิตรา ซึ่ง ดร.สุรพลก็บอกว่าต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่จังหวัดชุมพรไม่มีงบประมาณ พระองค์จึงทรงพระราชทานเงินของมูลนิธิชัยพัฒนาจำนวน 18 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขุดคลองให้ทะลุออกทะเลภายใน 1 เดือน
“หลังจากนั้น จึงมีการระดมรถแบกโฮกว่า 30 คันมาขุดคลองหัววัง-พนังตัก จนแล้วเสร็จก่อนพายุไต้ฝุ่นลินดาจะเข้า 3 วัน ทำให้ปริมาณน้ำมหาศาลของพายุไต้ฝุ่นลินดาถูกระบายลงสู่ทะเลหมด และไม่ท่วมตัวเมืองชุมพรมานานกว่า 19 ปีแล้ว แม้เมื่อปี 2556 จะมีน้ำท่วมบ้าง แต่ตัวเมืองชุมพรก็ไม่ได้รับผลกระทบ จึงถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ที่พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อชาวชุมพร ทันทีที่ทราบข่าวการเสด็จฯ สวรรคตผมมีความรู้สึกเหมือนกับหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง มือเท้าอ่อนแรงไปหมด ได้แต่นั่งเฝ้ามองพระบรมฉายาลักษณ์และพระรูปจำลองของพระองค์ขณะทรงผนวชที่วางอยู่บนหิ้งบูชา และคิดว่าชาตินี้คงไม่มีวันลืมพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อย่างแน่นอน” นายประยูร กล่าวก่อนยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตา พร้อมระบุว่า หากพระองค์สามารถรับรู้ได้ คงได้ทราบว่า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2559 มีชาวชุมพรนับหมื่นคนที่มาร่วมพิธีถวายความอาลัยต่อการจากไปของพระองค์ที่หน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร หลังจากนั้น นายประยูรก็ไม่สามารถพูดอะไรต่อได้อีก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ข่าวที่ได้รับความนิยม
-
วันที่ 12 กันยายน 2559 จังหวัดชุมพรร่วมแถลงข่าว ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ. 8 ,นายสมดี คชายั่งยืน ผู้ว่าราชการ...
-
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4กรกฏาคม.59 นายสุรชัย แย้มคล้าย อยู่บ้านเลขที่ 631/1 หมู่ที่ 5 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ ร...
-
วันที่ 7 พ.ย.59 นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร น างศิริลักษณ์ พลละเอียด นายกเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร น.ส.วัลภา แก้วสวี รักษาราชก...
-
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 ส.ค. 59 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.ทิพวรรณ อินทนาศักดิ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 8 ...
-
วันที่6ธันวาคม2559สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดชุมพร ยังมีฝนตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดชุมพรเกิดน้ำท่วมไปทั่ว สำนักง...
-
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 เวลาประมาณ 14.00 น. ตำรวจชุมพรโชว์ผลงาน จับกัญชาแห้งอัดแท่ง ชุดใหญ่ จำนวน 897 แท่ง น้ำหนักประมาณ 897 ก...
-
ผ่านไปแล้ว 30 วัน “ ลุงไสว ” พร้อมครอบครัว 4 ชีวิต เดินเท้าจาก จ.สงขลา มาถึงน้ำตกกะเปาะ ตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร...
-
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 นายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอปะทิวได้ทำการเปิด โครงการ อส.ปั่นด้วยใจไปกราบพระบรมศพเพื่อเป็...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น