!!ล่ำค่ามโหฬารศาลพระภูมิพุพัง!!

วันที่ 20กันยายน 2559  ตั้งแต่เวลา 11.00 น.- 15.00 น. อำเภอท่าแซะ โดยนายอำเภอนักรบ ณ ถลาง ร่วมกับอำเภอปะทิว โดย นายธนนท์  พรรพีภาส  นายอำเภอปะทิว  จัดทำโครงการ ชุมพรเก๋ไก๋ สร้างบ้านทรงไทยให้ปลา  โดยนายนักรบ มีแนวคิดในการนำศาลพระภูมิที่ไม่ใช้แล้วและชาวบ้านนำมากองไว้ริมถนนเพชรเกษม พื้นที่อำเภอท่าแซะ  โดยมีแกนนำชุมชน และชาวบ้านร่วมกันเก็บซากปรักหักพังของศาลพระภูมิเก่าชำรุดเสียหายที่ชาวบ้านนำไปทิ้งไว้ตามริมถนนจุดต่างๆ ในพื้นที่ของ อ.ท่าแซะ จำนวนมากใช้รถในการขนครั้งนี้ ร่วมร้อยคัน หลังจากที่ขนขึ้นรถแล้วได้นิมนต์พระจากสำนักสงฆ์เขาสามล้านมาทำพิธีและรดน้ำพระพุทธมนต์เพื่อเป็นศิริมงคลให้กับรถและคนที่มาขนขึ้นรถและขนย้ายไปไว้ที่ริมชายหาดท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดหลังจากนั้นก็ขนใส่เรือประมงนำไปทิ้งลงสู่ท้องทะเลห่างฝั่ง 3,000 เมตร บริเวณกองหินลิปู หมู่ 5 ตำบลสะพลี ให้เป็นบ้านปลา แหล่งปะการังเทียมเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัย และเป็นแหล่งอาหาร เพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งการทิ้งในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นครั้งแรกซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเก็บศาลพระภูมิดังกล่าวในพื้นที่อำเภอปะทิว ลงไปทิ้งไว้ก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าหลังจากทิ้งศาลพระภูมิลงทะเลแล้วได้มีการสำรวจดูปริมาณปลาโดยการนำเบ็ดมาวางตก ปรากฏว่า ทุกคนที่หย่อนเบ็ดลงไปในทะเลบริเวณบ้านปลาดังกล่าวเพียงไม่ถึง 5 นาที ก็มีปลานานาชนิด เช่น ปลาแดง ปลาทู ปลาสีกุน และปลาเก๋า ติดเบ็ดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง



    
      นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอท่าแซะ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมดังกล่าวที่ชาวบ้านเชิญตนมาร่วมด้วยนั้น เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่า ตนได้คิดริเริ่มทำสมัยที่ตนเป็นนายอำเภอปะทิวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่ตนจะย้ายไปเป็นนายอำเภอท่าแซะ เพราะตนได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามท้องที่ต่างๆ มักจะเป็นศาลพระภูมิเก่า ชำรุดเสียหายถูกนำมาทิ้งกองไว้ริมถนนตามจุดต่างๆ ตามความเชื่อ เมื่อทิ้งสะสมเป็นเวลานานก็จะเป็นกองขนาดใหญ่ ซึ่งคนในหมู่บ้านก็ไม่กล้าขนย้าย หรือทำลาย เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ ทำให้ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพความสวยงาม และเกิดความกลัวในหมู่ชาวบ้านที่สัญจรผ่านบริเวณนั้นตนจึงได้ปรึกษากับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านสะพลี ซึ่งชาวประมงก็เห็นด้วย พร้อมกับไปปรึกษาขอคำแนะนำจากเจ้าอาวาสวัดเอราวัณ ในพื้นที่ อ.ปะทิว ก็บอกว่า การกระทำดังกล่าวไม่ถือเป็นการลบหลู่ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด เนื่องจากเรานำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชาวบ้านส่วนรวม จึงเป็นที่มาของโครงการบ้านปลาดังกล่าว
        นายนักรบ กล่าวต่อว่า หลังจากชาวประมงได้สร้างบ้านปลาบริเวณดังกล่าว จนถึงขณะนี้ 2 ปีแล้ว พบว่า มีสัตว์น้ำชุกชุมมากขึ้น ชาวประมงจับปลาได้มาก และมีรายได้เพิ่มขึ้น และยังสามารถต่อยอดให้นักท่องเที่ยวมาเช่าเรือออกไม่พักผ่อนตกปลาที่มีอยู่ชุกชุมบริเวณดังกล่าวด้วย ทางกลุ่มประมงพื้นบ้านจึงได้ขยายพื้นที่ทำบ้านปลามาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันในพื้นที่จะไม่พบศาลพระภูมิเก่า ชำรุดที่ถูกนำมาทิ้งริมถนนแล้ว ขณะนี้ตนกำลังขยายแนวคิดนี้ไปยังพื้นที่อำเภออื่นๆ ให้ใช้วิธีดังกล่าว ส่วนพื้นที่ใดไม่ติดกับทะเลก็สามารถนำมาไว้ที่จุดกองวัสดุสร้างบ้านปลาของแต่ละพื้นที่ได้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการทิ้งศาลพระภูมิเก่าไว้ตามริมถนน ซึ่งจะได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป
          กิจกรรมในครั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ชุมพร – ระนอง)เห็นว่า โครงการ  "ชุมพร เก๋ไก๋ สร้างบ้านทรงไทยให้ปลา" เป็นกิจกรรมแนวสร้างสรรค์ที่ ททท.นำมาต่อยอด การท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด เที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง ที่จะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ หรือเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้แก่นักท่องเที่ยว ให้มีความประทับใจจากชุมชนท้องถิ่น หรือ Local Experience และนำรายได้ลงสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง โดยวางแผน ส่งเสริมการขายให้กับกลุ่ม Intensive กลุ่มบริษัทที่ต้องการนำพนักงานมาทำกิจกรรมเพื่อสังคมเชิงสร้างสรรค์ หรือกิจกรรม CSR
        หน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย เทศบาลตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร สำนักงานอำเภอท่าแซะ สำนักงานอำเภอ ปะทิว นายนิวัฒน์ สังข์มาลา หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ชพ.2 (ยายไท) นายพิศิษฐ์ ลี้วิริยะไพฑูรย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.สะพลี นายณรงค์ ม่วงทองคำ ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้าน  ,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จ.ชุมพร  โดยนางวิริยา แก่นแก้ว และนายวริส  วิชิต , องค์กรราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) พื้นที่ตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ  และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร,     สำนักงานประมงจังหวัดชุมพร กลุ่มประมงพื้นบ้านสะพลี กลุ่มชุมชนอำเภอท่าแซะ คณะครูนักเรียนโรงเรียนไทยรัฐ วิทยา ๗๗ โรงเรียนปัญญานุกูล       บริษัทเจริญโภคภัณฑ์จำกัดบริษัทโตโยต้า สาขาชุมพร หจก.เจริญผลการศิลา เรือรัตนศักดิ์นาวี พร้อมหน่วยงานภาครัฐและเอกชน  และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ ๓  ได้สนับสนุนเรือทิ้งซากศาลพระภูมิพร้อมนำสมาชิกผู้เข้าร่วมไปร่วมทิ้งด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวที่ได้รับความนิยม