เมื่อเวลา14.00 น.
วันที่ 3 ส.ค.59 นางสำราญ
รักษาภูมิ อายุ 47 ปี พร้อมลูกสาว(ขอสงวนนาม)อยู่บ้านเลขที่ 47/5 หมู่
9 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร ได้นำหลักฐานการชำระเงินของบริษัทประกัน
แห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนต่อ
นางพรพรรณ ศันติวิชยะ นายกสมาคมคุ้มครองผู้บริโภค จ.ชุมพร เพื่อให้ตรวจสอบและประสานงานไปยังบริษัทประกันชีวิตดังกล่าว
โดยให้การว่า ได้ทำประกันภัยกับตัวแทนแห่งหนึ่งชื่อนายวิศิษฐ์ บำรุงแขวง
ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ส.ค.45 แบบการประกันภัยตลอดชีพ
ชำระเบี้ยประกันตลอดชีพ 20 ปี กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ T098718715 ซึ่งจะส่งเบี้ยประกันภัยให้แก่ตัวแทน เป็นรายปี
ตั้งแต่ทำประกันฯมาได้ส่งตามระยะเวลามาตลอด ซึ่งจะส่งผ่านตัวแทนคือ นายวิศิษฐ์ บำรุงแขวง จะเป็นผู้มาเก็บเข้าประกันไป
เพราะความเชื่อใจ จึงให้เงินผ่านเขาไป และเห็นว่ารู้จักกัน เพราะเป็นคนในหมู่บ้าน การชำระเงินค่าประกันทุกครั้งจะออกใบเสร็จเป็นใบเสร็จชั่วคราวของทางบริษัทฯ
แต่เมื่อวันที่ 21ก.ค.58 ตัวแทนได้เข้าไปเก็บเงินตามปกติ ที่นิคมท่าแซะ
ก็ได้ให้เงินกับตัวแทนเขาไปเป็นจำนวนเงิน 4,174 บาท แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร
พอมาถึงปี 59 เดือนส.ค.จะครบเวลาส่งค่างวด เห็นว่าผิดปกติตัวแทนไม่ได้โทรหา เงียบไปเลยเดินทางเข้าไปเองที่บริษัทฯ
และได้สอบถามทางบริษัทฯว่าเงินที่ส่งไปทุกครั้งมีไหมที่ไม่เข้าบริษัทฯ
พอทางบริษัทฯตรวจดูให้พบว่าเงินที่ส่งไปกับตัวแทนกลายเป็นว่าตนเองค้างส่งในปี 58 กว่าจะรู้ก็ปีกว่าแล้ว
นางสำราญ ให้การต่อว่า
เพราะความเชื่อใจกับตัวแทนมาตลอด
ไม่เคยคิดเลยว่าทางตัวแทนจะไม่นำเงินส่งชำระค่าเบี้ยประกันให้จากนั้นก็ได้ปรึกษากับเพื่อนบ้านหลายๆคน
แล้วก็ได้ติดต่อกลับไปทางกรุงเทพด้วยตัวเองอีกครั้ง เพื่อสอบถามว่านายวิศิษฐ์ บำรุงแขวง
ยังทำงานเป็นตัวแทนอยู่ไหม
แต่ปรากฏว่านายวิศิษฐ์ได้ลาออกจากการเป็นตัวแทนบริษัทไปนานแล้ว
ภายหลังจากนางสำราญให้การกับนางพรพรรณ
จึงได้เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองชุมพรเพื่อให้สมาคมคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินการ เวลาต่อมานายวิศิษฐ์
ได้ติดต่อกลับสมาคมคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อนัดไกล่เกลี่ยพร้อมจะยอมชดใช้ในวันที่
12 ส.ค.นี้โดยอ้างว่าตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดชุมพรแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น