ธ.ก.ส.จังหวัดชุมพร จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ

วันที่ 24 สิงหาคม 2559 ณ พื้นที่ชุมชนบ้านกลางนา หมู่ที่ 5 ตำบลบางสน อำเภอปะทิว
จังหวัดชุมพร  ธ.ก.ส.จังหวัดชุมพร และสำนักงานสาขา ร่วมกับ ธ.ก.ส. ฝ่ายกิจการสาขาภาคใต้ตอนบน จัดกิจกรรม“ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ”เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวโรกาส มหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จเถลิง






ถวัลยราชสมบัติครบ70ปีและวโรกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระชนมพรรษา 7 รอบ ในวันที่ 12 สิงหาคม นี้โดยเดือนนี้ตลอดทั้งเดือนถือเป็นเดือนเทิดพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ เพื่อถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทั้ง 2 พระองค์ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย พร้อมส่งเสริมเกษตรกรทางการผลิตให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศเริ่มเพาะปลูกข้าวในช่วงเวลาที่เหมาะสมมีปริมาณฝนตกชุกเพื่อลดความเสี่ยง จากภัยแล้ง นายภูมิรินทร์ พรหมอักษร  ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคใต้ตอนบนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ส่งเสริมให้เกษตรกรเรียนรู้ธรรมมาภิบาลมุ่งเน้นสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ  “ปลูกวันแม่-เกี่ยววันพ่อ” ครั้งนี้ที่แปลงนาชุมชนบ้านกลางนา หมู่ที่ 5 ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เพื่อให้เกษตรกรที่สมัครใจร่วมโครงการได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีและได้เรียนรู้ถึงเส้นทาง การผลิตเมล็ดข้าวคุณภาพดี ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกจนถึงการเชื่อมโยงสู่การตลาดผ่านขบวนการ สหกรณ์และมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลผ่านสื่อมวลชนสาธารณะที่ต้องเปิดพื้นที่ให้กับทุกภาคส่วนในสังคม โดยมีเป้าหมายปริมาณผลผลิตข้าวเปลือก 84,000 ไร่ ระยะเวลาโครงการเริ่มดำนาในเดือน สิงหาคมนี้และเก็บเกี่ยวช่วงต้นเดือนธันวาคม 2559 โดยเกษตรกรที่ร่วมโครงการฯจะผลิตข้าวพันธุ์ต่าง ๆ ตามพื้นเมือง และในพื้นที่อำเภอปะทิวแห่งนี้ ชุมชนมีการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวเหลืองปะทิว ที่ยังคงเหลือแปลงนาที่เดียวที่เป็นชุมชนพื้นเมืองดั้งเดิมอย่างแท้จริง คือ แปลงนาข้าวเหลืองปะทิว ณ ชุมชนบ้านกลางนา หมู่ที่ 5 ต.บางสน แห่งนี้  ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่มีกระบวนการการผลิตในช่วง จังหวะเวลาที่สอดคล้องกับโครงการ โดย ธ.ก.ส.คัดเลือกเกษตรกรสมาชิกของชุมชนต้นแบบ เศรษฐกิจพอเพียงที่สมัครใจจะพัฒนาผลผลิตข้าวสู่เกษตรอินทรีย์ เพื่อผลิตข้าวหรือเมล็ดพันธุ์ กลุ่มละไม่น้อยกว่า 9 ราย และมีพื้นที่การผลิตรายละไม่น้อยกว่า 5 ไร่ นับว่าเป็นการส่งเสริมการ สร้างมูลค่าเพิ่มในการพัฒนาข้าวคุณภาพดีให้กับเกษตรกร ก่อเกิดกระบวนการเชื่อมโยง ตั้งแต่เริ่ม การผลิตจนถึงการตลาดผ่านช่องทางสถาบันเกษตรกร (สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) สหกรณ์การเกษตร (สกก.) และบริษัทไทยธุรกิจเกษตร (TABCO) โดยเกษตรกรที่ เข้าร่วมโครงการได้รับการสนับสนุนด้านองค์ความรู้เกษตรอินทรีย์จากนักวิชาการของส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง ” นายภูมิรินทร์  ยังกล่าวอีกว่า  “ชุมชนบ้านกลางนา หมู่ที่ 5  อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นหนึ่งในชุมชนที่เข้าร่วมโครงการโดยมีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ จำนวน 33 ราย พื้นที่ 365 ไร่ มีเป้าหมายการผลิต 200 ต้น ความสำเร็จของผลผลิตที่ได้จากส่วนหนึ่งมาจากความสามารถในการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพจากฝายชะลอน้ำของธนาคารที่สร้างให้กับชุมชน “ข้าวเหลืองปะทิวชุมพร” เป็นพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรเลือกมาปลูกในครั้งนี้เนื่องจากเป็นพันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่เกิดจากมรดกธรรมชาติของจังหวัดชุมพร มีการผลิตสืบทอดกันมาและปลูกในพื้นที่ อ.ปะทิว มานานกว่า 200 ปี อีกทั้งยังปลูกง่ายให้ผลผลิตดี เหมาะสมกับพื้นที่และสภาพอากาศ เมื่อผลผลิตข้าวจากโครงการนี้เก็บเกี่ยวในช่วงวันพ่อ ต้นเดือน ธันวาคม จะจัดจำหน่ายผ่านช่องทางสถาบันเกษตรกร โดยข้าวบางส่วนจะบรรจุเป็นข้าว A-rice รุ่นพิเศษ จัดจำหน่ายที่สำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดและสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งเปิดช่องทางการขาย ในรูปแบบจัดกิจกรรมเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนในสังคมร่วมสนับสนุนเป็นเจ้าของข้าวตั้งแต่อยู่ใน แปลงนา นับว่าเป็นสร้างการตลาดของผลผลิตการเกษตรแนวใหม่ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรผลิต ข้าวมีคุณภาพจากแปลงนาถึงผู้บริโภคโดยตรงมีตลาดรองรับตั้งแต่ก่อนปลูก นับเป็นการสร้าง กำลังใจให้เกษตรกรเป็นอย่างดี
           สำหรับโครงการ  “ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” ในวันนี้ ได้มีผู้ให้การมีส่วนร่วมจำนวนมาก ดังนี้ เวลา 10.00 น. นายสมดี คชายั่งยืน  ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานในพิธีเปิด และมี นายภูมิรินทร์ พรหมอักษร  ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคใต้ตอนบนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  เป็นผู้กล่าวรายงาน  มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน และขวัญกำลังใจให้กับชุมชน อาทิ นายอุดม  ทองเจิม ผู้อำนวยการโรงเรียนปะทิววิทยา ,นายประวิตร  พุ่มสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลบางสน พร้อมด้วยเลขา นายมานพ  ชาญนคร  ,นายประสิทธิ์  นฤสาร กำนันตำบลบางสน  นายประมวล กล่อมดง ผู้จัดการศูนย์ปรับปรุงพันธุกรรมกุ้งสาขาปะทิว  และผู้ใหญ่บ้านตำบลบางสน ทุกหมู่ อาทิ นายสุนทร ไผยา, นายบัญญัติ เชื้อสุวรรณ ,นายศักดิ์ชาย  พยัญตา, นายอำนาจ กาญจนี ,นางพูลศรี  แก้วกรูด  และอีกหลาย ๆ ท่าน
 หลังจากเสร็จในช่วงพิธีการ นายสมดี  คชายั่งยืน  ก็ได้ทำการหว่านข้าวในแปลงเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชาวนาที่เริ่มทำการหว่านดำข้าวเหลืองปะทิวจนทั่วทั้งแปลง และอีกแปลงที่มีการดำ ผู้ใหญ่พูลศรี แก้วกรูด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.บางสน ได้ลงดำนาด้วยตนเอง พร้อมกับทีมชาวนาที่เข้าร่วมโครงการลงดำนาจนเต็มทั้งแปลง

 นายประยูร เมืองนาโพธิ์ เจ้าของพื้นที่แปลงนาบ้านกลางนา และเป็นผู้นำด้านการอนุรักษ์แปลงนาและพันธุ์ข้าวเหลืองปะทิว ไม่ให้สูญหายไปจากอำเภอปะทิวได้กล่าวว่า ตนเองได้พยายามที่จะปลูกฝังให้เยาวชนเด็กรุ่นใหม่ ๆ ได้รู้จักข้าวเหลืองปะทิวและสามารถสืบทอดต่อไปรุ่นลูกรุ่นหลานได้ โดยการนำเยาวชนเข้ามาเรียนรู้ในแปลงนา ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนนักเรียนโรงเรียนปะทิววิทยา ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา โรงเรียนปะทิววิทยา  ที่มีผู้อำนวยการอุดม  ทองเจิม เป็นประธานศูนย์ฯ และ ผอ.โรงเรียน โดยมีการจัดเป็นหลักสูตรท้องถิ่นเข้ากับหลักสูตรของทางโรงเรียน ทำให้กลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้ ได้ร่วมกระบวนการทำนาข้าวเหลืองปะทิวแบบเกษตรอินทรีย์จนครบกระบวนการตั้งแต่เตรียมแปลงนา คราดไถ นำน้ำเข้านา หว่าน ดำ และดูแลตลอดช่วงที่ข้าวเจริญงอกงาม โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีการผลิตเองของกลุ่มนักเรียน โดยมี นายพิชัย จันทร์เพ็ง ข้าราชการครูเกษียร เป็นวิทยากรชุมชนสอนให้กับนักเรียนกลุ่มนี้จนถึงเวลาเก็บเกี่ยวเยาวชนก็มาเกี่ยวกันเอง จนได้ข้าวเปลือกมาเก็บไว้ จากการทำกิจกรรมของเยาวชนนักเรียนศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา โรงเรียนปะทิววิทยา ถึงแม้ผลผลิตที่ได้จะไม่สมบูรณ์นัก แต่สิ่งที่ได้มากกว่าผลผลิตคือ จิตสำนึกและความตระหนักที่มีต่อพันธุ์ข้าวเหลืองปะทิว และชีวิตการเป็น “ชาวนา” หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ที่โบราณกล่าวไว้ และอีกประการหนึ่งคือ การสำนึกรักษ์ท้องถิ่น สำนึกรักษ์บ้านเกิด
 ตามมาอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข่าวที่ได้รับความนิยม