พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อปฏิรูป จังหวัดชุมพร พร้อมเน้นย้ำเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของ การปราบปรามและการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด,อาวุธปืน,การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า, แรงงานต่างด้าว
พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชุมพร เพื่อตรวจเยี่ยมศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อปฏิรูป จังหวัดชุมพร โดยมีนายชาติชาย อุทัยพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย พล.ตรี มนัส คงแป้น ผู้บังคับการทหารบกจังหวัดชุมพร, พล.ต.ต.สุทธินาท สุดยอด ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดชุมพร และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมเกาะลังกาจิว ศาลากลางจังหวัดชุมพร
นายชาติชาย อุทัยพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวถึงการดำเนินงานศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อปฏิรูป จังหวัดชุมพรว่า จังหวัดชุมพร จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อปฏิรูป จังหวัดชุมพร ขึ้นเมื่อ วันที่ 5 มิถุนายน 2557 เพื่อสนับสนุนการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อให้สังคมไทยมีความสามัคคีและสันติสุขที่ยั่งยืน โดยถือเป็นวาระสำคัญของชาติ เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข ภายใต้สังคมที่เคารพกฎหมาย และกฎระเบียบทางสังคม ควบคูกับการร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาในพื้นที่ของตนเอง โดยจังหวัดชุมพรมุ้งเน้นให้บุคลกร ในภาครัฐ ต้องเข้าใจถึงหลักเหตุผลที่ถูกต้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และช่วยกันเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยมีระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง เที่ยงธรรม มีธรรมาภิบาล และ มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
โดยจังหวัดชุมพร แบ่งเขตการปกครองท้องที่ออกเป็น 8 อำเภอ 70 ตำบล 737 หมู่บ้าน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและทำการประมง มีทรัพยากรธรรมชาติทีอุดมสมบูรณ์หลากหลาย จึงไม่นิยมย้ายถิ่นฐาน รักความสงบ ไม่มีปัญหาความขัดแย้งของกลุ่มคนที่เห็นต่าง มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งชาวชุมพรได้สำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงช่วยเหลือชาวชุมพรให้รอดพ้นจากอุทกภัย โดยการขุดลอกคลองหัววังพนังตักเป็นแก้มลิงธรรมชาติ ด้วยเหตุดังกล่าว จังหวัดชุมพรพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนตามแนวทางของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างเข้มงวดต่อไป
พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำความสุขกลับคืนสู่ประชาชนคนไทยทั้งชาติ รวมทั้งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนเฉพาะหน้าเป็นการชั่วคราว เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้กำหนดนโยบายให้ รวบรวมความเห็นของประชาขนทุกฝ่าย เพื่อนำมาสรุป วิเคราะห์ กำหนดเป็นโรดแมป ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง โดยให้แต่ละจังหวัดจัดตั้ง ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อปฏิรูป เพื่อขับเคลื่อนเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องและยั่งยืน ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความรักความสามัคคี ปรองดองสมานฉันท์
โดยการลงพื้นที่จังหวัดชุมพนในครั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้เพิ่มความเข้มงวดกวดขันในเรื่องของการปราบปรามและการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด, การเคลื่อนย้ายขนถ่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม, การป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ, ปัญหาแรงงานต่างด้าว ที่เน้นย้ำในเรื่องดังกล่าวเนื่องจาก จังหวัดชุมพรเป็นจังหวัดประตูสู้ภาคใต้ และเป็นทางผ่านจากทางภาคใต้มุ่งสู่เมืองหลวง หากสกัดกั้นหรือปราบปรามได้ ก็จะทำให้ปัญหาดังกล่าวลดลง จึงอยากให้จังหวัดชุมพรเข้มงวดเป็นพิเศษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น