เมื่อวันที่
29 กันยายน 2559
ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสำรวจพื้นที่เขาดินสอ เนื่องจากในเดือนกันยายน -
ตุลาคม – พฤศจิกายน นี้
จะเป็นช่วงเทศกาลชมนกเหยี่ยวอพยพ ทุกๆปี ซึ่งในช่วงหน้าหนาวจะมีการอพยพย้ายถิ่นฐานชั่วคราว
ของนกเหยี่ยวหลากหลายสายพันธุ์ นับแสนๆตัว จากประเทศรัสเซีย มองโกเลีย จีน ญี่ปุ่น
เกาหลี เวียดนาม เข้ามาหาอาหาร อากาศที่อบอุ่นกว่า ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศทางผ่านของนกเหยี่ยว
เพื่อบินต่อไปยังประเทศมาเลเซีย อินโดนีเชีย กิจกรรมการท่องเที่ยวดูนกเหยี่ยวอพยพ
ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว เพราะว่าสามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย
ทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะที่ “เขาดินสอ” ตำบลบางสน
อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร นั้นสามารถชมนกอพยพได้ง่าย
และสะดวกในการเฝ้าดูนกมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเทศบาลตำบลบางสนจะเป็นเจ้าภาพจัดร่วมกับหน่วยงานระดับจังหวัดในทุก
ๆ ปี โดยที่ทางเทศบาลฯ ได้ตั้งงบประมาณจ้างเหมาเจ้าหน้าที่เวรยามคอยดูแลรักษาความปลอดภัย
และดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่เขาดินสอดังกล่าวไว้ทุก ๆ ปี อีกทั้งยังดูแลเรื่องอาคารสถานที่อาคาร
ห้องน้ำ รวมทั้งน้ำใช้บริเวณบนเขาดินสอเพื่อไว้บริการให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการอย่างสะดวก
จากการที่ผู้สื่อข่าวได้พบปะพูดคุยกับนายประวิตร
พุ่มสุวรรณ เทศมนตรีตำบลบางสน และทีมงานบริหารเทศบาลตำบลบางสน ได้พบว่า ในปีนี้
เกิดความไม่สบายใจเนื่องจากว่า ในพื้นที่ดังกล่าว ได้มีกลุ่มนักอนุรักษ์นกกลุ่มหนึ่งซึ่งได้ทำหนังสือขออนุญาตกับทางเทศบาลว่า
ขอเข้าทำการวิจัยโดยใช้หัวข้อว่า “ส่งเสริมการพัฒนาและการวิจัย
นกล่าเหยื่อที่อพยพย้ายถิ่นเขาดินสอ” โดยมาขอทำข้อตกลงร่วมกันกับเทศบาลและทางมูลนิธิฯ
ทั้งนี้ทางเทศบาลฯ ยังไม่ได้ตอบรับใด ๆ ต่อข้อตกลงดังกล่าว และก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร
หากทีมงานดังกล่าวไม่สร้างผลกระทบใด ๆ ต่อพื้นที่และกลุ่มนักท่องเที่ยว
ที่ผ่านมาพบว่า ทีมงานนักวิจัยซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ได้เข้าไปปักหลักในพื้นที่ศาลาซึ่งเป็นจุดพักของนักเดินทางขึ้นชมนกเหยี่ยวและชมวิวเขาดินสอ
อีกทั้งยังมีการกั้นเชือก กั้นตาข่าย และเขียนป้ายห้ามเข้าบริเวณดังกล่าว โดยมาปักหลักอยู่มาแรมเดือน
นอกจากนี้ยังพบว่าที่ตาข่ายจะมีนกเหยี่ยวมาติดตาข่ายจำนวนหลายตัว ซึ่งบางครั้งเจ้าหน้าที่เวรยามยังแอบปล่อย
เนื่องจากเกรงว่า นกเหยี่ยวจะได้รับอันตราย เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา
นายประวิตร พุ่มสุวรรณ ก็เกิดความไม่สบายใจว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลชมนกเหยี่ยวอพยพ
ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมเป็นจำนวนมากในระยะ 3
เดือนนี้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวบางส่วนก็ได้สะท้อนกลับมาที่เทศบาลว่า
ในเมื่อเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วทำไมมีข้อจำกัด
และให้สิทธิพิเศษกับบางกลุ่มเข้าไปครองพื้นที่ดังกล่าว โดยที่นักท่องเที่ยวไม่ทราบที่มาที่ไปของการกั้นอาณาเขตบริเวณนั้น
ๆ ก่อเกิดผลกระทบในแง่ลบต่อเทศบาลด้านการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลดูนกเหยี่ยวอพยพ
และในวันที่ 30 กันยายน 2559 เทศบาลได้จัดแถลงข่าวกับทางนายอำเภอปะทิว
เพื่อหาข้อตกลงร่วมกับทีมงานวิจัยดังกล่าวในส่วนที่ยังเป็นข้อกังวล
แต่ในวันนี้ทางทีมงานวิจัยได้ส่งตัวแทนเข้ามาชี้แจงโดยที่บางข้อตัวแทนยังไม่สามารถตกลงร่วมกันได้
จึงนัดว่าจะมีการลงไปสำรวจพื้นที่ร่วมกันในวันที่ 4 ตุลาคม 2559
นี้ โดยมีนายอำเภอปะทิว นายธนนท์ พรรพีภาส ,นายประวิตร พุ่มสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลบางสน และทีมงาน
ร่วมกับทีมงานกลุ่มนักวิจัยฯ ดังกล่าว แล้วค่อยมาหาข้อเจรจาร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อให้ตกลงกันได้ เนื่องจากในวันที่ 8-9 ตุลาคม 2559 ที่จะถึงนี้
จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการของเทศกาลชมนกเหยี่ยวอพยพเขาดินสอ อำเภอปะทิว
จังหวัดชุมพร และหลังจากนั้นไปจนถึงสิ้นปี ก็จะมีนักท่องเที่ยวเทียวไปเทียวมาอย่างต่อเนื่อง
จะได้สบายใจกันหลาย ๆ ฝ่าย ทั้ง
เทศบาล
ฯ ,ทั้งกลุ่มนักวิจัย และกลุ่มนักท่องเที่ยวดูนกเหยี่ยวอพยพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น